สิว เกิดได้หลายสาเหตุ สิว เกิดได้จากสารภายในร่างกายเราเอง เช่น มีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป หรือเป็นกรรมพันธุ์ การใช้ยา หรือเครื่องสำอางบางชนิด นอกจากนี้สภาพแวดล้อม แสงแดดและอุณหภูมิ ความสะอาด อาหาร คนหน้ามัน ก็มีโอกาสเป็นสิวได้ ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ รักษาสิว ยังไงให้ถูกวิธี เรามาดูวิธีที่สามารถลดปัญหาสิวได้ด้วยตัวเองกันค่ะ
1. อาหารที่รับประทานการรับประทานอาหารจำพวกที่มีน้ำตาลสูง หรือ อาหารจำพวกที่มีมันมากๆ จะทำให้เพิ่มโอกาสการเป็นสิวมากขึ้น แนะนำว่าให้ กินอาหารจำพวก นม เนย ชีส เพื่อผิวพรรณที่ดีขึ้น และ ยังช่วยลดปัญหาสิวลงด้วย
2. การล้างหน้าในเรื่องนี้ควรรักษาความสะอาดตามปกติ คือ ล้างหน้าวันละสองรอบ เช้าและก่อนนอน ไม่มากไปกว่านี้ ด้วยสบู่ธรรมดา และไม่ควรใช้สบู่ยา เพราะตัวยาในสบู่มักมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หรือใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว , ใช้น้ำอุ่นๆในการล้างหน้า , ไม่ถูหน้าแรงจนเกินไป เพราะอาจส่งผลระคายเคืองต่อผิวหนังได้ ยกเว้นในรายที่ผิวหน้ามัน อาจต้องล้างหน้าบ่อยขึ้น
3. ไม่ควรบีบ แกะ แงะ กด สิว
ควรหลีกเลี่ยงการบีบและแกะ หรือ วิธีอื่นๆที่ใช้กำลังทำให้หัวสิวออกมา วิธีพวกนี้อาจทำให้การติดเชื้อลึกลงไปถึงผิวหนังชั้นใน จะทำให้สิวลุกลามและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้การอุดตันมีความรุนแรงมากขึ้น อาการบวมแดงและรอยดำหลังจากสิวหายแย่ลง แถมการบีบสิวนั้นอาจทำให้เกิดแผลเป็นแบบหลุมสิวและทิ้งรอยแผลเป็นของสิวเมื่อหายดีแล้วอีกด้วย
4. ผม โกนหนวด กันคิ้วถ้าคุณเป็นคนผมยาว ก็ควรที่จะรักษาผมให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะเส้นผมเต็มไปด้วย sebum (น้ำมันตัวเดียวกับน้ำมันบนใบหน้า) ซึ่งหากผมยาวจนลงมาปกปิดใบหน้า จนกลายเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวได้เช่นกัน ในการโกนหนวด กันคิ้ว หากจะโกนหรือกัน ควรใช้อุปกรณ์ที่มีใบมีดแหลมคม และควรเปลี่ยนใบมีดเมื่อทู่แล้ว เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองแล้ว ยังอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ ที่สำคัญก่อนโกนหนวด หรือ กันคิ้ว ควรใช้น้ำอุ่นชโลมผิวหน้า ในส่วนที่ต้องการโกนก่อน เพราะจะทำให้ผิวหน้านุ่มขึ้น ง่ายต่อการโกน โดยไม่เกิดการระคายเคือง
นอกจากปัญหาเหล่านี้แล้ว ยังพบปัญหาอื่นๆ เรื่องอารมณ์ เชื่อว่าอารมณ์เครียดส่งผลต่อสิว จึงควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ และเรื่องเครื่องสำอาง ควรเลือกเครื่องสำอางชนิดที่ละลายได้ดีในน้ำ เพื่อชะล้างออกได้ง่าย และไม่หลงเหลือ อุดตันตามรูขุมขน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น