5 สเต็ปใช้มาสก์ชีท บำรุงหน้าให้สวยเป๊ะ

สาวๆ ที่รักความสวยความงาม เคล็ดลับที่จะดูแลผิวหน้าให้สวยสุขภาพดี นอกจากการทำความสะอาดและทาครีมแล้ว ก็ยังมีวิธีการมาสก์หน้าที่ควรทำเป็นประจำ อาทิตย์ละ 2 ครั้งอีกด้วยนะคะ ซึ่งในตอนนี้การมาสก์หน้าที่นิยมและทำได้ง่าย ก็หนีไม่พ้อการมาสก์หน้าด้วยแผ่นมาสก์ชีทที่มีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้กับผิว แต่จะใช้มาสก์ชีทยังไงให้เวิร์ค? ตามมาดูกันค่ะ

ล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง

ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพื่อล้างเอาสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกและเพื่อเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับวิตามินบำรุงผิวจากมาสก์ ดังนั้นก่อนนอน ก็ล้างหน้าก่อน แล้วก็เตรียมแผ่นมาสก์เอาไว้เลยค่า

วางให้ตรงต่ำแหน่ง แล้วลูบให้แนบสนิท

เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้ว เช็ดหน้าให้แห้งนะคะ โดยเวลาที่ดีในการมาสก์หน้า จะเป็นช่วงเวลาก่อนนอนที่ผิวหน้าควรได้รับการพักผ่อนและดูแลผิว เมื่อแกะแผ่นมาสก์ออกมาแล้ว ก็วางลงให้ตรงต่ำแหน่งตาหูจมูกปาก แล้วรีดแผ่นมาสก์ให้แนบไปกับหน้าได้เลยค่ะ

เนื้อเซรั่มในซองเอามาทารอบๆ คอได้นะ

เมื่อวางแผ่นมาสก์ลงบนหน้าแล้ว ในซองแผ่นมาสก์จะแอบมีเซรั่มค้างอยู่ในซอง ก็สามารถนำออกมาทาบริเวณลำคอและช่วงออกได้นะคะ ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ

นอนพักมาสก์หน้าสัก 15-25 นาที ไม่มากไปกว่านี้

จากนอนนอนพักผ่อนลงเลยค่า ให้มาสก์ได้ทำหน้าที่บำรุงผิวหน้า โดยการซึมเข้าผิว เราจะมาสก์หน้าโดยใช้เวลาประมาณ 15 – 25 นาทีนะคะ มากสุดก็ 30 นาทีเพื่อให้มาสก์ซึมเข้าผิวให้ได้เยอะที่สุด หากแต่เมื่อปล่อยให้เวลานานกว่านี้ จะทำให้แผ่นมาสก์ดูดเอาความชุ่มชื้นกลับมาแทนได้นะคะ

ล้างหน้าเมื่อเอาแผ่นมาสก์ออก แล้วเช็ดด้วยโทนเนอร์

เมื่อมาสก์หน้าเสร็จแล้ว ก็เอาแผ่นมาสก์ออกจากหน้า แล้วใช้นิ้วนวดวนให้เนื้อครีมซึมลงชั้นผิวให้มากที่สุด ก่อนไปล้างหน้าออกด้วยน้ำะอาด แล้วเช็ดด้วยโทนเนอร์ ก่อนทาครีมบำรุงผิวก่อนนอนตามปกติค่า
ขั้นตอนการมาสก์หน้าด้วยแผ่นมาสก์ชีทก็ง่ายๆ เท่านี้เองค่ะ ใครที่ชื่นชอบการบำรุงผิว เพื่อให้ผิวสวยสมบูรณ์แบบ ก็นำวิธีนี้ไปใช้ได้นะคะ ผิวสวยเป๊ะแน่นอนค่ะ

"5 เคล็ดลับสวยข้ามคืน ที่ควรทำก่อนนอน"

ช่วงเวลากลางคืน เป็นเวลาที่ดีเลยนะคะ สำหรับการเตรียมความพร้อมให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและดูสวยสดใสได้ในวันต่อไป หากพักผ่อนให้เพียงพอก็เริ่มวันใหม่ได้อย่างสดใสเลยล่ะค่า แต่ว่าจะนอนพักผ่อนอย่างเดียวก็ก็จะไม่คุ้มนะคะ วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับที่ช่วยให้สวยแบบข้ามคืน เช้าขึ้นมาดูสวยสุขภาพดีกันเลย จะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลยค่า

💋 ทาลิปมันก่อนนอน ริมฝีปากชุ่มชื้น 💋

เนื่องจากริมฝีปากของเรา ไม่สามารถผลิตน้ำมันออกมาได้เองในตอนกลางคืนนะคะ การทาลิปมันหรือลิปบาล์มทิ้งเอาไว้ก่อนนอน จะช่วยให้ริมฝีปากในตอนเช้าดูชุ่มชื่นและไม่แห้งเป็นขุย เป็นริมฝีปากที่ระเรื่อ สวยแบบธรรมชาติเลยล่ะค่า

💋 ใช้วาสลีนทุกคืน เร่งขนตายาว 💋

ใครที่ขนตาสั้นและบาง ใช้วิธีนี้เลยค่า เอาคอตตอนบัตแตะกับวาสลีนแล้วนำมาทาบริเวณเปลือกตาให้ชิดริมขนตาทุกคืน วาสลีนมีความชุ่มชื้น จะช่วยทำให้ขนตายาวและหนาขึ้นได้ วิธีนี้ใช้ได้กับสาวๆ ที่คิ้วบางด้วยนะคะ

💋 ใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผม ลดผมแห้งเสีย 💋

ผมแห้งเสียแตกปลาย จัดทรงาก ให้สาวๆ หาน้ำมันมะพร้าวมาเก็เอาไว้เลยค่า หยดน้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำอุ่นๆ เล็กน้อยแล้วนำมาลูบผมให้ทั่ว เสร็จแล้วใส่หมวกอาบน้ำ เช้าขึ้นมาค่อยสระผม ทำเป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เส้นผมก็จะเงางาม ดูชุ่มชื้นและเรียงตัวสวยขึ้นได้อีกด้วยค่า

💋 ทาอายครีมก่อนนอน ลดตาบวมวันรุ่งขึ้น 💋

หน้าโทรมเพราะนอนดึก แล้วตาคล้ำ อยากตื่นมาหน้าสดใส ใต้ตาไม่คล้ำไหมคะ? ง่ายๆ เลยแค่ทาอายครีมก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน ก็ช่วยลดอาการบวมใต้ตาในตอนเช้า ช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสได้ทุกวันแล้วค่ะ

💋 ทาแฮนด์ครีม ช่วยให้มือนุ่ม 💋

อย่ามองข้ามจุดเล็กๆ อย่างมือและเล็บนะคะ ควรบำรุงมือด้วยแฮนด์ครีมก่อนนอนเป็นประจำ เวลาเช้าขึ้นมา ก็จะรู้สึกได้ว่ามือนุ่มเล็บนุ่ม ไม่กระด้าง เวลาจะจับมือกับใครก็รู้สึกดีได้ค่า

เคล็ดลับทั้ง 5 วิธีที่เราหาเอามาฝาก สาวๆ สามารถทำเป็นประจำตอนเวลาก่อนนอนจะช่วยให้ดูสวยแบบธรรมชาติแล้ว ยังช่วยลดเวลาแต่งตัวตอนเช้าได้อีกด้วยนะคะ จะสวยก็ต้องสวยให้ครบตั้งแต่เส้นผมถึงปลายนิ้วเลยค่ะ

ได้เวลาซ่อมผิว! 7 สูตรมาส์กหน้าด้วยเจลว่านหางจระเข้ หน้าดูใสไบร์ทขึ้นได้ง่ายๆ

ช่วงนี้เจลว่านหางจระเข้ถือเป็นไอเท็มตัวใหม่ที่กำลังมาแรงเชียวค่ะ เพราะด้วยประโยชน์หลายอย่างรวมถึงยังใช้ง่ายและปลอดภัยเพราะมาจากธรรมชาติ ทำให้ว่านหางจระเข้ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของสกินแคร์หลายชนิด ทั้งมาส์กหน้า, โทนเนอร์ หรือแม้แต่มอยเจอร์ไรส์เซอร์ทาผิวก็ยังมีให้เห็นในท้องตลาดตอนนี้
และด้วยประโยชน์ที่หลากหลายนี้เอง เราจึงรวบรวมสูตรมาส์กหน้าด้วยเจลว่านหางจระเข้มาให้สาวๆ ถึง 7 สูตรด้วยกันค่ะ ใครที่กำลังมีปัญหาผิวหน้า ทั้งรอยสิว, สิวเสี้ยนหรือแม้แต่อยากให้หน้าดูใส ไบร์ทขึ้น ก็สามารถนำสูตรของเราไปใช้ได้เลยค่ะ สาวๆ จะได้มีใบหน้าที่ขาว ใส ไม่ต้องคอยกังวลกับปัญหาผิวอีกต่อไปค่ะ

ขัดหน้าลดสิวเสี้ยน

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

กล้วยบด 1 ลูก

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

โยเกิร์ต 1 ช้อนชา

ลดสิว

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

น้ำมะนาว 2 – 3 หยด

ผงจันทร์เทศ 1/4 ช้อนชา

สำหรับผิวแห้ง

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

น้ำมันมะกอกแบบบริสุทธิ์ 1/2 ช้อนชา

น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

สำหรับผิวมัน

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

โยเกิร์ต 1 ช้อนชา

เนื้อมะเขือเทศบด 1 ช้อนชา

สำหรับผิวแพ้ง่าย

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

เนื้อมะละกอบด 1 ช้อนชา

แก้ปัญหาผิวไหม้แดดและลดฝ้า

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

แตงกวาบด 1 ช้อนชา

น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

โยเกิร์ต 1 ช้อนชา

ลดจุดด่างดำ รอยแดงจากสิว

เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา

แครอทบด 1 ช้อนชา

น้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนชา

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://women.trueid.net

แจกโพย! สูตรรักษาสิว ลดสิว ของบล็อกเกอร์ สายป่าน เปลี่ยนหน้าสิวให้เป็นหน้าใส!

ถ้าพูดถึง วิธีรักษาสิว วิธี ลดสิว แล้ว คงบอกได้ยากค่ะ ว่าวิธีไหนจะดีที่สุด เพราะบางครั้งสิวของแต่ละคนก็เกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน แต่ถ้าจะหาวิธีป้องกันหรือรักษาที่ง่ายที่สุดแล้ว ก็ต้องเริ่มจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิว และไม่ก่อให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นนี่ล่ะค่ะ ซึ่งงานนี้บล็อกเกอร์สาวสวยอย่างคุณ สายป่าน SP SAYPAN ก็ได้แนะนำขั้นตอนการรักษาสิวง่ายๆ มาให้เราแล้ว! โดยขั้นตอนทั้งหมดที่คุณสายป่านแนะนำบอกเลยว่าทำไม่ยากค่ะ เป็นการดูแลใบหน้าที่นอกจากจะช่วยลดสิวแล้ว ยังช่วยให้หน้าแข็งแรงขึ้นอีกด้วย!
สำหรับขั้นตอนการใช้ / การทาครีมต่างๆ บล็อกเกอร์สายป่านแนะนำให้ทำเรียงตั้งแต่ ข้อ 1-9 เรียงไปตามนี้เลยค่า
กลุ่มครีมลดรอยแดง/รอยดำ

Skincare

ครีมกันแดด ของคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย

Cleansing Water

ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ใช้กระดาษทิชชู่ เช็ดหน้าแทนผ้าเช็ดตัว คนเป็นสิวอุดตัน ใช้ Benzac 2.5% หรือ 5% ทาบางๆ ตรงที่เป็นสิวอุดตัน

Cleanser (ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า)

ใช้น้ำเกลือล้างแผล

และสำหรับใครที่เป็นสิวอื่นๆ ลองรักษาได้ตามนี้เลยค่า

หากอยากเก็บเป็นโพยไว้ดูประจำทุกวัน เซฟรูปของบล็อกเกอร์สายป่านรูปนี้เก็บไว้เลยจ้าา รับรองหน้าสิวกลายเป็นหน้าใสแน่นอน!

รู้ไหม..ครีม Anti-Aging ควรใช้ตอนอายุเท่าไหร่ถึงจะดี???

เคยเป็นกันบ้างไหมคะสาวๆ เวลาอ่านในเน็ตว่าครีมนั้นดี ครีมนี้น่าใช้ เราก็อยากจะไปหามาใช้ซะให้ได้เดี๋ยวนั้นเลย 555 ทั้งๆ ที่ครีมบางอย่างก็ไม่เหมาะกับผิวของเราสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยากจะลองใช้ครีม Anti-Aging พวกลดเลือนริ้วรอยทั้งหลาย แต่แอบไม่มั่นใจว่าจะเหมาะกับเราหรือเปล่า อายุเท่าไหร่ถึงจะใช้ได้? เราจะพาไปเฉลยคำตอบกันค่ะ

🌺 รู้จักครีม Anti-Aging 🌺

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักครีมประเภท Anti-Aging กันก่อน ว่ามันคือครีมต่อต้านริ้วรอย ที่จะมีส่วนผสมของพวกสาร Antioxidant ช่วยชะลอริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นกับผิว บางแบรนด์จะมีส่วนผสมของพวกคอลลาเจนเข้าไปเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว หรืออาจจะมีสารเพิ่มความชุ่มชื้น และเข้าไปเติมร่องลึกบนชั้นผิวให้ดูตื้นขึ้น รวมถึงพวกครีมน้ำมันม้า น้ำนมม้า หรือพวกส่วนผสมของเซราไมด์ที่ทำให้ผิวแข็งแรงและอ่อนเยาว์ เป็นต้นค่ะ

🌺 อายุเท่าไหร่ถึงควรใช้ครีม Anti-Aging 🌺

จริงๆ พออายุสัก 20 ปีขึ้นไป เราก็สามารถดูแลและบำรุงผิวด้วยการป้องกันพวกริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้แแล้วนะคะ โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้าบ่อย หรือผิวหน้ามีความเสี่ยง ทั้งมลภาวะ และการทำร้ายผิวอื่นๆ แต่ถ้าจะให้ดีก็แนะนำว่าเริ่มใช้ตอนอายุ 25 ปีขึ้นไปก็ได้ แต่อย่าให้เกิน 25 ปีนานเกินไปนัก เพราะเราจะได้รีบป้องกันริ้วรอยกันตั้งแต่เนิ่นๆ จำไว้ว่ามันคือครีมที่ช่วยชะลอริ้วรอย ไม่ใช่ต้องรอให้มีริ้วรอยแล้วค่อยใช้นะจ๊ะ

รู้อย่างนี้แล้ว สาวๆ ที่กำลังสงสัยว่าวัยแบบเราจะทาครีมพวก Anti-Aging ได้หรือยัง ก็ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับช่วงอายุดูนะคะ นอกจากนี้ที่สำคัญสุดๆ คือห้ามลืมครีมกันแดดเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต่อให้โบกครีมลดเลือนริ้วรอยเท่าไหร่ ก็ยังมีความเสี่ยงจากแสงแดดตัวทำลายล้างขั้นเทพอยู่ดี!!

ร่วมสนับสนุนให้สาวๆ ดูแลผิวลดเลือนริ้วรอย โดย Lyonesse สั่งซื้อได้ที่ https://www.facebook.com/lyonesseth/

"11 สูตรดูแลผิว บำรุงผม ให้สุขภาพดี ด้วยน้ำผึ้ง"

สาวๆ รู้มั้ยคะว่า มีวัตถุดิบและของใช้ภายในครัวหลายอย่างเลยทีเดียวค่ะ ที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการดูแลผิวให้สวยใสได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น เกลือ น้ำมันมะพร้าว ว่านหางจระเข้ รวมถึงน้ำผึ้งที่เราใช้ทำอาหารนี่ล่ะค่ะ ซึ่งเห็นเป็นน้ำใสๆ หวานๆ แบบนี้ แต่ขอบอกว่า ช่วยเพิ่มความสวยให้เราได้ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ฉะนั้นอย่ารอช้าค่ะ มาลองทำตามทั้ง 11 สูตรนี้กันเลย!

มาส์กหน้าเพิ่มความชุ่มชื้น

น้ำผึ้งถือเป็นตัวดูดซึมความชื้นที่ดีทีเดียวค่ะ โดยน้ำผึ้งจะช่วยดูดซึมความชื้นจากอากาศเข้าสู่ชั้นผิวที่ต้องการการซ่อมแซมของเราได้อย่างล้ำลึก เพียงแค่สาวๆ มาส์กหน้าด้วยน้ำผึ้งประมาณ 2 ช้อนชา หลังทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว และทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เท่านี้ใบหน้าของสาวๆ ก็จะเนียนนุ่มชุ่มชื้นอย่างยาวนานแล้วล่ะค่า

ทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจด

เอนไซม์ในน้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวของสาวๆ สะอาดหมดจดไร้สิ่งตกค้าง แถมยังช่วยให้ใบหน้าสว่างสดใสอีกด้วย เพียงผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เข้ากับโจโจ้บาร์ ออยส์ หรือน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมานวดให้ทั่วใบหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด สารแอนตี้แบคทีเรียในน้ำผึ้งและโจโจ้บาร์ ออยส์ หรือน้ำมันมะพร้าว จะช่วยป้องกันแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ดีทีเดียวค่า

ผลัดเซลล์ผิวที่เสียอย่างอ่อนโยน

น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเดนท์, เอนไซม์ และสารอาหารนานาชนิดที่ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพียงแค่สาวๆ ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กับเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ เข้าด้วยกัน แล้วนำมาขัดเบาๆ บนผิวหน้าหรือลำตัว น้ำผึ้งและเบกกิ้งโซดาจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปอย่างหมดจด ทั้งยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

ช่วยให้รอยแผลเป็นจางลง

ในน้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารที่ช่วยต่อต้านการอักเสบและสารแอนตี้แบคทีเรีย จึงช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้เป็นอย่างดีค่ะ แค่สาวๆ ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา พร้อมกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา จากนั้นใช้นิ้วนวดส่วนผสมเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าประมาณ 1-2 นาที ทำเช่นนี้ทุกวัน จะช่วยลดรอยแผลเป็นได้ดีเลยล่ะค่า

ทรีตเมนท์ลดสิว

น้ำผึ้งมีสารที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว สาวไหนที่ประสบปัญหาสิวเห่อทั่วหน้า ลองใช้น้ำผึ้งแต้มบริเวณที่เป็นสิว และทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีดูค่ะ น้ำผึ้งจะช่วยลดการอักเวบของสิวได้อย่างอยู่หมัด!

อาบน้ำผึ้งเพื่อผิวนุ่มชุ่มชื้น

น้ำผึ้งไม่เพียงช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราเท่านั้นคะสาวๆ แต่ยังช่วยซ่อมแซมผิวที่เสียจากการโดนทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะทั้งหลายได้อีกด้วย เพียงผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำร้อน 1 ถ้วย จากนั้นนำไปใส่ลงในน้ำอุ่น แล้วนอนแช่ ทำเช่นนี้ทุกวัน รับรอง ผิวกลับมาสวยใสดังเดิมแน่นอนค่า

มอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงเล็บ

น้ำผึ้งนอกจากจะมีประโยชน์ต่อผิวของสาวๆ แล้ว ยังดีต่อเล็บอีกด้วยล่ะค่ะสาวๆ หากสาวๆ ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา เข้ากับน้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิล 1 ช้อนชา และน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา แล้วนำมาทาบนเล็บ ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้เล็บไม่เปราะหักง่ายอีกต่อไป

คอนดิชันเนอร์ฟื้นฟูผมเสีย

เอนไซม์และสารอาหารในน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงเส้นผมของสาวๆ ให้เงางาม ไม่ชี้ฟู เพียงแค่ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นชโลมลงบนปลายผมที่เสีย ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก เท่านี้ผมของสาวๆ ก้จะกลับมามีสุขภาพดีแล้วล่ะค่า

แชมพูเร่งผมยาว

นอกจากน้ำผึ้งจะช่วยคืนความเงางามและรักษาผมที่แห้งเสียให้กลับมาดีแล้ว สาวไหนที่อยากให้ผมยาวเร็ว ก็สามารถใช้น้ำผึ้งได้เช่นกันค่ะ โดยผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาลงในขวดแชมพู และสระผมตามปกติ งานนี้ต่อให้ผมสั้นแค่ไหนก็หายห่วง!

ทรีตเมนต์ฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแดด

สาวไหนที่เซ็งกับผิวไหม้เกรียมจากแสงแดด ไม่ต้องไปหาซื้อครีมที่ไหนไกลค่ะ เพียงแค่ผสมน้ำผึ้งเข้ากับว่านหางจระเข้ แล้วนำมาทาผิวบริเวณที่โดนเผาไหม้ ทั้งน้ำผึ้งและว่านหางจระเข้จะช่วยลดผิวเสียและอาการไหม้ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่า

สครับผิวหน้าให้เนียนนุ่ม

สาวไหนที่อยากได้ผิวสวยเนียน น่าสัมผัส เพียงแค่ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา และอัลมอนด์บด 2 ช้อนชาเข้าด้วยกัน แล้วนำมาสครับผิวหน้าเบาๆ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น สารอาหารในอัลมอนด์และน้ำผึ้งจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของสาวๆ ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นนั่นเองค่า

5 เทคนิค กินลดสิว ผิวหน้าใส แถมลดความอ้วนไปในตัว!

“สิว” ปัญหาใหญ่ของสาวๆ ที่ไม่ว่าจะหาวิธีรักษายังไง ก็ยังผุดขึ้นมากวนใจทุกที ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวนั้นก็มีหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งฮอร์โมน อากาศ เครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่งอาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน ฉะนั้นนอกจากการดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดแล้ว อีกหนึ่งวิธีลดสิวง่ายๆ ก็คือการเลือกกินอาหารที่ไม่กระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นนี่ล่ะ! แล้วจะต้องกินยังไงบ้าง เรามีคำตอบ!

ลดหวาน

น้ำตาลไม่ว่าจะมาในรูปของอาหาร เครื่องดื่ม ล้วนเป็นตัวการของการเกิดสิว เพราะความหวานเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีสภาพเป็นกรด ทำให้เซลล์ในผิวหนังเกิดการอักเสบได้ง่าย รวมทั้งส่งผลเสียต่อระดับฮอร์โมน โดยเมื่อทานหวานมากเกินไป อินซูลินจะถูกหลั่งออกมามากขึ้น จนไปกระตุ้นฮอร์โมนอื่นๆ ให้หลั่งออกมาผิดปกติเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือฮอร์โมนแห่งความเครียด ที่มีผลต่อการเกิดสิวโดยตรง

เลี่ยงแป้งขัดขาว

อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งส่งผลเสียต่อผิวพรรณไม่ต่างจากน้ำตาล แป้งที่ถูกรับประทานเข้าไปจะถูกย่อยและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น  ส่งผลกระทบถึงเซลล์ผิวหนังที่จะอักเสบได้ง่าย ผิวที่มีปัญหาสิวก็จะมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น หากต้องการให้สิวหายไวๆ จึงจำเป็นต้องลด หลีกเลี่ยง การบริโภคแป้งขัดขาว ไม่ว่าจะมาในรูปของข้าว ขนมปัง

เน้นผัก

เน้นรับประทานผักต่างๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะผักใบเขียวชนิดต่างๆ ที่มีทั้งคลอโรฟิลล์และวิตามินเออยู่มาก นอกจากจะดีต่อร่างกายแล้วยังมีประโยชน์ต่อผิว ทั้งต่อต้านริ้วรอย ต้านการอักเสบของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงทนต่อแดดที่มาทำร้ายได้ดี รวมทั้งผักสีต่างๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ทั้งวิตามินเอ บี ซี เค อย่างแครอท มันเทศ ฟักทอง ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านสิวได้

เน้นโปรตีน

โปรตีนช่วยให้สิวหายได้ เพราะมีคุณสมบัติเด่นๆ คือ ช่วยรักษาสมดุลของดัชนีไกลซีมิก (Glycemic Index) หรือดัชนีน้ำตาลในอาหาร ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกโหยหรือเพลีย จนต้องหาของหวานมาเติมเข้าสู่ร่างกาย และโปรตีนยังช่วยซ่อมแซมเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้สิวทุเลาลงได้ โดยโปรตีนดีๆ ที่แนะนำให้รับประทาน ได้แก่ โปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ขาว ผักโขม สาหร่ายสไปรูลินา ถั่ว โยเกิร์ต เป็นต้น

กินผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ต้องยอมรับว่าวิถีชีวิตทเร่งี่รีบในยุคปัจจุบัน คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารปรุงสำเร็จมากขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นทางเลือกที่เติมเต็มให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ แม้กระทั่งผู้ที่เป็นสิวก็มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมามากมายให้เลือกซื้อหามารับประทาน หากต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลเรื่องปัญหาสิว