8 พฤติธรรมที่ ทำปากดำโดยไม่รู้ตัว!! . . .

💬 ปัญหาริมฝีปากดำ ไม่ว่าจะทาลิปสติกสีไหน ก็มักจะถูกกลืนกินไปกับสีของริมฝีปากซะหมด แถมยังทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำหมดราศีไปด้วย มาดูกันว่า 8 พฤติธรรมที่ ทำปากดำไม่รู้ตัว !! . . .

1. เลียริมฝีปากบ่อย

💬 ใครที่มีพฤติกรรมติดการเลียริมฝีปากจนเป็นนิสัย ขอให้เลิกค่ะ! ถ้าปากแห้ง ปากแตก ควรใช้ลิปมันมาทาแทนจะดีกว่าเพราะการเลียริมฝีปาก จะทำให้เอนไซม์ย่อยอาหารที่มีอยู่ในน้ำลาย รบกวนเซลล์ผิวบริเวณนี้มากขึ้น และเป็นผลให้ปากดำในที่สุด . . .

2. ลิปสติกที่มีสารตะกั่ว

💬 หลายคนอาจจะเพิกเฉยและไม่ได้สนใจอะไรมากนักกับลิปสติกที่ไม่ได้คุณภาพและไม่ได้มาตราฐาน แต่สิ่งนี้แหละคือตัวการในการทำให้ปากดำเลย เพราะบางทีสีที่เค้าผสมมาในลิปสติกที่คุณมองว่าสีแน่น กลบสีปากดีเว่อร์ๆ เนี่ยแหละค่ะ มีสารบางอย่างที่จะมากัดให้ริมฝีปากของเรานั้นกลายเป็นสีดำคล้ำได้ . . . 💋💋

3. ออกแดดบ่อย ๆ

💬 แสงแดดไม่ได้ทำลายผิวพรรณในส่วนผิวหน้าและผิวกายแต่เพียงเท่านั้นนะคะ แต่ยังทำให้ผิวริมฝีปากมันก็ทำลายให้เกิดความไหม้เกรียม และนำมาซึ่งปัญหาปากดำได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น สาวๆ จึงควรใช้ลิปสติกที่มีสารกันแดด ทั้งลิปบาล์มบำรุงความชุ่มชื้น และลิปสติกสีสันสวยต่างๆ ควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF เพื่อช่วยป้องกันรังสี UV ร่วมด้วย . . .💋💋

4. ลิปสติกหมดอายุ

💬การทาลิปสติก ย่อมทำให้ริมฝีปากสวยดูดีมีเสน่ห์ได้ แต่บางครั้งลิปสติกที่คุณทาก็อาจเสื่อมสภาพหรือหมดอายุลงแล้วก็เป็นได้ หากยังใช้ลิปสติกที่หมดอายุก็ย่อมทำให้เกิดปัญหาปากดำได้เช่นเดียวกัน ทั้งยังก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้อีกด้วย ดังนั้น ก่อนหยิบลิปสติกมาทา หากพบว่าสภาพเนื้อของลิปสติกมีการเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นสีและกลิ่น แนะนำหากเก็บไว้นานเกินกว่า 2 ปีแล้วก็ควรทิ้ง ซื้อลิปสติกแท่งใหม่จะดีกว่า . . . 💋💋

5. ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด

💬 เชื่อว่าสาวๆทุกคนที่แต่งหน้าจะต้องใช้ makeup remover ล้างหน้ากันอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนที่เรากำลังเช็ดล้างเครื่องสำอางค์กันอยู่นั้น เราได้เช็ดริมฝีปากของเราให้สะอาดด้วยรึเปล่าคะ หลายๆคนอาจคิดว่าผ่านมาทั้งวันแล้ว ลิปสติกก็ลอกหมด ไม่จำเป็นต้องเช็ดก็ได้มั้ง แต่รู้กันใช่มั้ยคะว่าลิปสติกสมัยนี้ติดแน่นทนนานกันมากกกก บางทีอาจจะยังมีติดอยู่เป็นคราบเล็กๆบางๆที่ถ้าไม่สังเกตุก็ไม่เห็นก็ได้นะ ทางที่ดี ใช้ Makeup remover ล้างทุกครั้งเพื่อความแน่ใจดีกว่านะจ๊ะ . . . 💋💋

6. สูบบุหรี่

💬 นี่ก็เป็นอีกสาเหตุของริมฝีปากที่ดำคล้ำ เพราะสารนิโคตินและสารพิษอื่นๆ ในบุหรี่ รวมถึงควันบุหรี่ จะทำลายเซลล์ผิวบริเวณริมฝีปากให้เสื่อมสภาพลง พร้อมทั้งเพิ่มเม็ดสีมากขึ้น ริมฝีปากจึงดูสีเข้มกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง . . . 💋💋

7. ดื่มน้ำน้อยเกินไป

💬 การที่เราปล่อยให้ริมฝีปากแห้งกร้าน ก็เหมือนกันกับการปล่อยให้ผิวแห้งขาดน้ำนั่นเอง ซึ่งนอกจากผิวจะดูหมองคล้ำไม่สดใสแล้ว ยังสามารถส่งผลมายังปัญหาริมฝีปากได้ด้วย โดยจะทำให้ริมฝีปากแห้งลอกเป็นขุย และยังดำคล้ำขึ้นง่ายอย่างที่คุณไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นสาว ๆ ควรดื่มน้ำอุ่นวันละ 8-10 แก้ว เพื่อเติมเต็มอาหารผิวให้เซลล์จากภายใน . . . 💋💋

8. ไม่บำรุงริมฝีปาก

💬 ลิปมันที่มีส่วนผสมของวิตามินอี จะช่วยเพิ่มเติมความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก จึงมีส่วนสำคัญในการทำให้สีปากที่ดำคล้ำลดความเข้มลง ดังนั้น ควรพกลิปมันไว้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ก่อนออกจากบ้านก็ให้ทาลิปมันที่มีส่วนผสมของสารกันแดดก่อนทาลิปสติกสีทุกครั้ง. . . 💋💋

📮 สอบถามและสั่งซื้อได้ที่ 🚗💭
FB : https://www.facebook.com/lyonesseth
Inbox : fb.me/msg/lyonesseth/
Line@ : http://bit.ly/2lTdsWY

เรื่องกล้วย ๆ กล้วยช่วยหน้าใสไร้สิว

🍌🍌 เรื่องกล้วยๆ กล้วยช่วยหน้าใสไร้สิว 🍌🍌

---

เรื่องกล้วยๆ ที่หลาย ๆ คน คิดไม่ถึง แต่สรรพคุณเยอะมาก ๆ เวลาเราทานกล้วยหมด อย่าทิ้งเปลือกเด็ดขาด!! เพราะเจ้าตัวเปลือกกล้วยนี่แระ ที่จะเป็นประโยชน์ช่วยให้เราหน้าใสไร้สิวได้
กล้วยหาซื้อง่าย กล้วยมีสารอาหารและแร่ธาตุที่สำคัญต่อผิวและร่างกาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โพแทสเซียม สังกะสี ไนอะซิน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน เราไปดูกันเลยดีกว่า ว่ากล้วยเอาไปทำวิธีไหนได้บ้าง . . . 🍌🍌👇👇

1. เพิ่มความชุ่มชื่น

กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวแห้ง หยาบกร้านได้ ในกรณีที่ผิวแห้งมากๆ
🔹🔹 วิธีทำ 🔹🔹
เราอาจนำกล้วยสุกมาบด แล้วเอามาพอกที่หน้า หลีกเลี่ยงผิวบริเวณรอบดวงตา และรอบผิวปาก และพอกทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็นค่ะ 🍌🍌

2. ลดสิว

เปลือกกล้วยมีสรรพคุณในการลดการอักเสบ และบรรเทาอาการสิวให้ดีขึ้นได้ด้วย เพราะในกล้วยมีวิตามินเอ ที่ช่วยการรักษาสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีธาตุสังกะสี ที่ช่วยลดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อสิว บำรุงผิวให้ขาวขึ้นได้
🔹🔹 วิธีทำ 🔹🔹
การนำ เปลือกกล้วย ถูที่ผิวบริเวณที่เป็นสิวของคุณให้ทั่ว โดยใช้ด้านในของผิวเปลือกกล้วย แล้วล้างตัวด้วยน้ำสะอาด 🍌🍌

3. ขัดฟันขาว

ฟันสามารถดูดซึมแร่ธาตุในเปลือกกล้วย (เช่น โพรแทสเซียม, แมกนีเซียม และแมงกานีส) ได้ และแร่ธาตุเหล่านี้ก็จะทำให้ฟันขาวขึ้น และเปลือกกล้วยจะอ่อนโยนกับฟันมากกว่าทางเลือกอื่นๆ เพราะว่าไม่มีสารกัดกร่อน
🔹🔹 วิธีทำ 🔹🔹
ตัดเปลือกกล้วยเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาถูที่ฟันซักครู่ประมาณ 2 นาทีแล้วบ้วนน้ำล้างออก ทำเป็นประจำวันละ 1-2 ครั้งจะทำให้ฟันขาวขึ้น 🍌🍌

4. ลดถุงใต้ตา

ลืมแตงกวาไปได้เลย เพราะในเปลืกกล้วยก็มีความชุ่มชื้นมากพอจะช่วยลดถุงใต้ตาบ่วมตุ่ย หรือจะแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าก็สบายมาก
🔹🔹 วิธีทำ 🔹🔹
นำเปลือกกล้วยวางปิดไว้บริเวณดวงตา ก็จะช่วยให้ริ้วรอยความเหนื่อยล้าจากถุงใต้ตา ดูสดใสขึ้นเท่านี้ดวงตาที่เคยบวมเคยดำ ก็จะสวยเปล่งปลั่งเป็นสาวแบ๊ว🍌🍌

5. ต่อต้านริ้วรอย

เพราะกล้วยยังอุดมเป็นด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และยังมีวิตามินอี ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสง UV และชะลอผิวไม่ให้แก่เร็ว
🔹🔹 วิธีทำ 🔹🔹
เพียงแค่นำกล้วยหอม 1 ลูก ผสมกับน้ำผึ้งคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สามารถทำได้ถึง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์

5. ลดเลือนรอยสิว ลดจุดด่างดำ

กล้วยมีวิตามินซี และวิตามินอี ที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น พร้อมปกป้องแสง UV ที่เป็นตัวการของแสงแดด และมีวิตามินเอ ที่มีสรรพคุณในการลดเลือนจุดด่างดำ
🔹🔹 วิธีทำ 🔹🔹
เอาด้านในของเปลือกกล้วยหอมมาถูหน้าเบาๆเป็นวงกลม จนด้านในของเปลือกเปลี่ยนเป็นสีดำให้ทิ้ง แล้วเปลี่ยนอันใหม่ ถูให้ทั่วใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30นาที แล้วล้างออก

👉 มีอีกวิธีง่าย ๆ ประหยัดเวลาเพียงแค่คุณทา ก็เห็นผลใน 14 วัน . . .

💗💗 Lyonesse 💗💗

1. Lyonesse Whitening Cream ( บอกลาทุกความหมองคล้ำ เผยผิวออร่า )

2. Lyonesse Anti-aging serum ( ลดทุกริ้วรอย คืนความสดใสให้คุณ )

---

📣👉FB : https://www.facebook.com/lyonesseth
📣👉Inbox : fb.me/msg/lyonesseth/
📣👉Line@ : http://bit.ly/2lTdsWY
📣👉Ig :lyonesse_official_th

บอกลาใต้ตาหมีแพนด้า . . .🐼

🐼 บอกลาใต้ตาหมีแพนด้า . . .🐼

เห็นใครๆ ก็พูดไว้ เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ 💟 . . . ถุงใต้ตา รอยหมองคล้ำใต้ตา เลยเป็นปัญหาหนักของสาว ๆ สมัยนี้กันเลย ถ่ายรูปทีไรก็ใต้ตาดำเป็นหมีแพนด้า 🐼 หมดความมั่นใจไปตามๆ กัน . . .
วันนี้ก็จะมาบอกเคล็ดลับดีๆ ในการช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา หรือที่ใครๆ ชอบแซวกันว่า ตาหมีแพนด้านั้นเอง !

❶การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 🌃

ปัญหาหลักๆ ของการมีขอบตาดำ คือการที่สาวๆ นอนดึก การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ร่างกายของเราเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย และเครียด จนทำให้ขอบตาดำคล้ำนั่นเองค่ะ คนที่นอนหลับเพียงพอ แต่ยังมีความเครียดสูง ก็มีสิทธิ์ที่จะมีขอบตาดำคล้ำได้เช่นกัน

❷ บำรุงด้วย ว่านหางจระเข้ 👀

สมุนไพรไทยมันดีอยู่แล้ว และยิ่งเป็นว่านหางจระเข้ที่มีส่วนผสมจะช่วยให้ขอบตาคล้ำจางลงได้ เพียงแค่สาวๆ นำวุ้นว่านหางจระเข้สด ๆ มาทาใต้ตาแล้วนวดเป็นวงกลม ทิ้งไว้และเราก็หลับแบบสวย ๆ พอตื่นมา ทำแบบนี้ทุกวันหรืออาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง สาว ๆ ก็จะตื่นมาเห็นขอบตาที่คล้ำจางลงไป

❸ ประคบด้วยแตงกวา 🥒🥒

แตงกวา พืชอีกหนึ่งชนิดที่นิยมนำมาช่วยลดรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด ทั้ง วิตามิน A วิตามิน B และ วิตามิน C รวมถึงแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวของเรา วิธีนี้เป็นวิธียอดฮิตกันเลยทีเดียว นำแตงกวาสดมาหั่นเป็นแว่นๆ และนำไปแช่เย็นไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำมาวางบนเปลือกตาทั้งสองข้าง ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แค่นี้ขอบตาก็จะเปล่งปลั่ง ร่างกายก็จะรู้สึกสดชื่น

❹ ประคบด้วยไข่ต้ม 🥚🥚

นำไข่ต้มร้อนๆ ปอกเปลือกแล้วห่อด้วยผ้าสะอาด จากนั้นนำไปนวดบริเวณรอบๆ ดวงตา จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี ทำให้รอยคล้ำใต้ตาค่อยๆ จางลง

❺ ประคบด้วยถุงชา 🍵

วิธีการง่าย ๆ ที่จะนำถุงชาที่ใช้แล้วนำมาใช้ประโยชน์ในการถนอมดวงตาให้ดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วย ลดอาการถุงใต้ตา ตาบวมช้ำ และรอยคล้ำใต้ตาให้จางลง โดยนำถุงชาที่ชงแล้วร้อนอุ่นๆ มาประคบใต้หลับตาให้สนิท แล้วนำถุงชามาประคบรอบดวงตาทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น หากหมั่นทำเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยให้คุณมีดวงตาที่สวยสดใสในราคาไม่แพงเลย

❻ ดื่มน้ำแครอทหรือน้ำมะเขือเทศ 🥕🍎🍹

แคโรทีนในแครอทและมะเขือเทศจะมีส่วนช่วยขจัดความเมื่อยล้าบริเวณดวงตาได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งความเมื่อยล้าของดวงตานั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรามีรอยคล้ำรอบดวงตาได้ง่าย เพราะฉะนั้นให้หมั่นดื่มน้ำที่มีแคโรทีอย่างแครอทและมะเขือเทศเป็นประจำก็จะสามารถช่วยคุณได้เช่นกันค่ะ (แอบบอกว่านอกจากจะดีต่อดวงตาแล้ว ดื่มน้ำผักแบบนี้ยิ่งทำให้ผิวสวยใสขึ้นอีกด้วยนะ)

❼ ทาคอลซิลเลอร์ปกปิดรอยคล้ำ 💆‍♀

วิธีที่เร่งด่วนที่สุด!! คือ การปกปิดด้วยคอลซิลเลอร์ ให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์เนื้อบางเกลี่ยง่ายและมีโทนสีใกล้เคียงกับสีผิวของเรามากที่สุด อย่างสีเหลืองหรือสีเหลืองปนส้มอ่อน ๆ เพื่อที่จะได้แก้สีคล้ำของเงาใต้ตาได้ หากตาบวม แนะนำลองผสมคอนซีลเลอร์กับอายครีมและไฮไลท์เบาๆบนหลังฝ่ามือ ป้ายลงไปบริเวณโหนกคิ้วและใต้ตา จะช่วยพรางตาบวมได้

📣👉FB : https://www.facebook.com/lyonesseth
📣👉Inbox : fb.me/msg/lyonesseth/
📣👉Line@ : http://bit.ly/2lTdsWY
📣👉Ig :lyonesse_official_th

วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยอวบอิ่มอยู่เสมอ

ริมฝีปากผู้หญิงเราเป็นจุดที่มีความบอบบางและแห้งกร้านรวดเร็วอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจะปล่อยผิวริมฝีปากเอาไว้ไม่ละเลยใส่ใจคงไม่ได้หรอกจริงมั้ยคะ เพราะไม่เช่นนั้น เรียวปากที่เคยสวยอวบอิ่มสุขภาพดีก็จะยิ่งแห้ง หยาบกร้านและลอกเป็นขุยง่ายขึ้น ทำให้ทาลิปสติกออกมาก็ไม่สวยอย่างใจเข้าไปอีก วันนี้เราจึงงัดวิธีดูแลริมฝีปากมาฝากสาวๆ ให้ทำตามกันดูค่ะ ใครอยากมีริมฝีปากสวย มาทำตามวิธีง่ายๆ ดังนี้กันนะคะ

1. สครับริมฝีปากเป็นประจำ

ริมฝีปากสาวๆ โดยเฉพาะสาวที่มีผิวแห้งมักจะเผชิญกับความแห้งกร้าน เซลล์ผิวจะหลุดลอกเป็นขุยๆ ง่าย ทำให้ทาลิปสติกเฉดสีใดก็ออกมาไม่สวยเรียบเนียน แถมยังเป็นอีกหนึ่งต้นตอที่ทำให้ปากดำได้ง่ายขึ้นด้วย ดังนั้น จึงควรหมั่นสครับผิวริมฝีปากกันเป็นประจำด้วยวาสลีน น้ำตาลและน้ำผึ้ง หรือก่อนนอนตอนที่เราแปรงฟันอาจจะขัดเบาๆ ด้วยแปรงขนนุ่มก็ได้ค่ะ ทำเป็นประจำรับรองปัญหาขุยที่ลอกเป็นแผ่นๆ จะหมดไป ริมฝีปากก็จะเรียบเนียนใสสุขภาพดี

2. ทาลิปบาล์มอยู่เสมอ

เพราะลิปบาล์มจะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวริมฝีปากเรา แถมยังทำให้ปากเนียนนุ่ม ส่งผลให้สุขภาพผิวอิ่มเอิบระเรื่อสดใสในแบบธรรมชาติได้ดีอีกด้วย หากเลือกใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของสารกันแดดร่วมด้วยจะดีมากค่ะ จะได้ยิ่งช่วยปกป้องรังสี UV ไม่ให้ทำลายผิวริมฝีปากจนหมองคล้ำ ดำง่ายยิ่งขึ้น

3. ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ

ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้วเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับน้ำก็จะยิ่งทำให้ผิวภายนอกเปล่งปลั่งสดใส และเนียนนุ่มชุ่มชื้นแบบสาวผิวสุขภาพดี ไม่เว้นแม้แต่สุขภาพเส้นผมผิวหน้า ผิวกายและเล็บก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้ว ริมฝีปากที่เคยแห้งกร้านหมองคล้ำง่าย หากสาวๆ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ รับรองได้เลยค่ะว่าสภาพผิวที่แห้งและลอกแตกเป็นขุยๆ นั้นจะต้องหมดไปแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากสาวๆ เลือกทาลิปสติกไม่ว่าเฉดสีใด แนะนำให้เลือกซื้อลิปสติกคุณภาพดีที่มีมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงในตัวพร้อมกันด้วยนะคะ ผิวเรียวปากจะได้สวยอวบอิ่ม มีน้ำมีนวล แต่สำหรับสาวผิวแห้งเป็นพิเศษอาจจะหลีกเลี่ยงการทาลิปสติกสีแมตต์ก็ได้ค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากดูแห้งกร้านง่ายมากเกินไป เมื่อดูแลริมฝีปากแล้วก็อย่าลืมดูแลผิวหน้ากันด้วยนะคะ วันนี้เราก็มีตัวช่วยดีๆมานำเสนอกันคะ

ตัวช่วยดีๆที่จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ ดูขาวกระจ่างใส ด้วยผลิตภัณฑ์ Lyonesse เซรั่มและครีมบำรุงผิวหน้าที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยคุณค่าแห่งการบำรุงผิวหน้า ทำให้สาวๆมีผิวขาวเปล่งปลั่งได้ภายใน 14 วัน แน่นอนคะ

รักษาจุดด่างดํา รอยดํา รอยแดงจากสิว !!

สำหรับปัญหาจุดด่างดำหรือรอยสิวคงไม่ต้องอธิบายกันมากว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง มันก็คือผลผลิตร่องรอยที่เกิดจากสิวนั่นเอง ที่เป็นตัวสร้างความเสียหายให้ผิวเพิ่มขึ้นจนอักเสบและเป็นแผลในที่สุด และยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอกัน นั่นก็คือการเอาผิวหน้าไปรับแสงแดดโดยไม่ป้องกัน จึงทำให้ผิวเป็นทั้งรอยแดง รอยดำจนถึงคล้ำ ขนาดที่ว่าดูเผินๆ ก็ยังเห็นว่ามันเป็นจุดด่างๆ ดำๆ ทำให้เจ้าของใบหน้าไม่กล้าเปิดเผยผิวหน้าเพียวๆ ให้ใครได้เห็น

สูตรมะเฟือง+น้ำผึ้ง

สูตรนี้ให้คุณคั้นเอาน้ำมะเฟืองมาผสมกับน้ำผึ้ง จากนั้นก็นำมาแต้มลงบนจุดด่างดำทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออก แต่ถ้าไม่รู้สึกแสบหรือระคายเคือง คุณอาจลงทั้งหน้าเลยก็ได้ สามารถทำได้อาทิตย์ละครั้ง โดยมะเฟืองนั้นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง มันจึงช่วยทำให้เซลล์ผิวใหม่ขาวขึ้น ส่วนที่ต้องนำมาผสมกับน้ำผึ้งนั้นก็เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าแห้งจนเกินไป ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนหน้าแห้งมากก็ให้ใส่น้ำผึ้งมากหน่อย และเน้นแต้มเฉพาะบริเวณจุดด่างดำ

สูตรหอมแดง

สมุนไพรรักษาจุดด่างดำ ช่วยลดผิวที่ดำคล้ำ รวมไปถึงฝ้าและกระ วิธีการทำก็ง่ายๆ เพียงแค่นำหอมแดงมาฝานออกเป็นแว่นๆ แล้วนำมาถูบริเวณที่เป็นรอยดำ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที สามารถทำได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

สูตรมะขามเปียก+น้ำผึ้ง+นมสด

มะขามเปียกเป็นอะไรที่พูดถึงกันมายาวนานและเป็นที่ยอบรับว่ามันสามารถช่วยทำให้ผิวขาวและช่วยผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี โดยสูตรนี้ให้คุณคั้นเอาน้ำมะขาม จากนั้นให้นำมาผสมกับน้ำผึ้งและนมสดเล็กน้อย ถ้าต้องการพอกทั้งหน้าและต้องการให้หน้าเนียนนุ่ม เมื่อผสมจนเข้ากันดีแล้วก็ให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แต่ถ้ารู้สึกคันยิบๆ จนทนไม่ไหว ก็ไม่ต้องฝืนนะ ให้รีบล้างออกเลย โดยสูตรนี้คุณสามารถทำได้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แล้วจุดด่างดำก็จะจางลงเอง

สูตรเนื้อองุ่นเขียว+โยเกิร์ตรสธรรมชาติ+น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว

สูตรนี้เป็นสูตรที่อ่อนโยน ปลอดภัยและทำให้หน้ามีความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง โดยจะใช้องุ่นเขียวเป็นส่วนผสมหลัก วิธีทำก็เริ่มจากการปั่นส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม แล้วเอามาพอกบริเวณใบหน้า จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเย็น สามารถทำได้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แล้วจุดด่างดำจะค่อยๆ จางลงในที่สุด

สูตรข้าวโอ๊ต+น้ำผึ้ง

เป็นอีกสูตรที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีสรรพคุณที่ดีต่อผิวพรรณ สามารถช่วยลดจุดด่างดำบนใบหน้า และช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพื่อให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งสดใสและเกลี้ยงเกลา นำข้าวโอ๊ตมาบดให้เป็นผงละเอียดและผสมเข้ากับน้ำผึ้ง ใช้ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับให้แห้ง

สูตรสับปะรด+น้ำผึ้ง

สูตรนี้เป็นสูตรของผู้ที่มีผิวหน้ามันแบบสุดๆ เพราะสูตรนี้นอกจากจะช่วยขจัดปัญหารอยแผลและจุดด่างดำแล้ว มันยังช่วยกำจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้อีกด้วย วิธีการก็คือให้คั้นเอาน้ำสับปะรดมาผสมกับน้ำผึ้ง แล้วทาบางๆ ให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก สามารถทำได้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ถ้าใช้สูตรนี้แล้วอย่าลืมทากันแดดก่อนออกจากบ้านด้วยล่ะ เพราะผิวจะค่อนข้างไวต่อแสงแดด

สูตรมะนาว+น้ำผึ้ง

อย่างที่ทราบสรรพคุณของมะนาวและน้ำผึ้งไปแล้วว่าสามารถช่วยลดจุดด่างดำได้ วิธีการทำก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณนำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาทาลงบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที โดยสามารถทำได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวบอบบาง

สูตรว่านหางจระเข้

สมุนไพรลดรอยดําจากสิว อีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถช่วยลดรอยแผลเป็นและรอยดำต่างๆ ได้ดี วิธีใช้ก็ให้นำว่านหางจระเข้มาทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที รอยด่างดำก็จะค่อยๆ จางลงในเวลา 1-2 เดือน แถมยังช่วยลดความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย

สูตรมะละกอสุก

มะละกอเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารปาเปน ซึ่งเป็นเอนไซม์โปรตีนที่ช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดูสดใสกว่าขึ้นมาแทน อีกทั้งมะละกอยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม วิธีการก็ไม่ยาก เพียงแค่คุณนำเนื้อมะละกอสุกมาปั่นให้ละเอียดแล้วนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้สึกได้ถึงผิวหน้าที่เต่งตึงและดูสดชื่นขึ้นแบบทันตา

ทั้งหมดนี้ก็คือสูตรลับเพื่อหน้าสวยใส ใครชอบแบบไหนก็เลือกใช้ได้ตามสบายเลยนะคะ และนอกจากสูตรที่กล่าวไปแล้ว คุณควรหันมาบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการทาครีมบำรุงผิวหน้าที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ วันนี้เราก็มีตัวช่วยดีๆ มาแนะนำเพื่อนๆกันคะ นี่เลย #Lyonesse เซรั่มและครีมบำรุงผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

เลือกอายไลเนอร์ให้เหมาะกับคุณ

สาวๆ ที่รักการเขียนอายไลเนอร์เป็นชีวิตจิตใจ รู้ไหมค่ะว่าอายไลเนอร์มีแบบไหนบ้าง แล้วคุณเหมาะกับอายไลเนอร์ชนิดไหน วันนี้เรามีคำตอบให้ค่ะ…

อายไลเนอร์ แบบพู่กัน

อายไลเนอร์ปลายพู่กัน ลักษณะเหมือนปากกาเมจิก ใช้งานง่ายมากๆ เส้นเรียวเล็ก เขียนง่าย แห้งเร็ว สาวมือใหม่ใช้แล้วติดใจแน่นอน แล้วเส้นที่ออกมาค่อนข้างคมชัด แต่ถ้าต้องการความคมเข้ม ควรเขียนซ้ำหลายทีๆ รับรองหนาคมเข้มซะใจแน่นอนค่ะ

อายไลเนอร์ แบบมีกลิตเตอร์

เป็นชนิดเดียวกับ อายไลเนอร์ชนิดน้ำ เพียงแต่ผสมกลิตเตอร์เพื่อเพิ่มประกายวิ้งๆให้กับดวงตาดูสดใส ในยามค่ำคืนเหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องออกงานกลางคืน สาวๆควรมีติดไว้สักอันเพื่อการแต่งหน้ากลางคืนโดยเฉพาะ

อายไลเนอร์ แบบน้ำ หรือ ลิควิด อายไลเนอร์

เหมาะสำหรับสาวมือโปร เพราะปลายที่แหลมเล็ก เส้นที่ออกมาคมชัด หนาทึบ ตวัดหางหน่อยได้ลุคสาวเปรี้ยวโฉบเฉี่ยวเลยทีเดียว สาวมือใหม่ก็ต้องฝึกฝน หัดบ่อยๆทำทุกวัน รับรองไม่กี่วันก็ชิน เขียนได้แบบชิวๆเลยล่ะค่ะ และไม่ต้องกลัวว่าบ่ายๆหน้าจะกลายเป็นหลินปิง ติดทนยันผับปิดเลยล่ะ เดี๋ยวนี้มีแบบผสมไฟเบอร์ล้างออกง่ายมากๆ แค่แตะด้วยน้ำก็จะหลุดลอกออกมาเป็นเส้นๆเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกันตาเหี่ยวตาย่นเลยล่ะค่ะ

อายไลเนอร์ เนื้อเจล

วันไหนที่อยากแต่งตาแบบคมเข้ม ต้องเลือกอายไลเนอร์เนื้อเจล เริ่ดที่สุดค่ะ จะได้ดวงตากลมโต คมเข้ม โดดเด่นขึ้นไปอีก และยังติดทนยาวนานทั้งวัน ไม่ต้องหวั่นเรื่องแพนด้าเลยล่ะค่ะ อายไลเนอร์เนื้อเจลจะมาพร้อมกับพู่กัน ด้วยความที่เป็นเนื้อเจลเส้นที่ออกมา หนาทึบ เข้มสะใจ แถมเนื้อเจลยังนิ่มเขียนง่ายอีกด้วย แรกๆคุณอาจยังใช้ไม่ถนัด แต่ถ้าได้ลองแล้วคุณจะติดใจ ถึงขนาดเป็นอายไลเนอ์ในดวงใจเลยก็ได้นะคะ

แชโดว์ ไลเนอร์

ไลน์เนอร์ที่สามารถเป็นอายแชโดว์ได้ด้วย ใช้เกลี่ยแรเงารอบดวงตา เพื่อให้ดวงตากลมโต และคมเข้มมากขึ้น เนื้อเนียนนุ่ม ลื่น เขียนง่าย เขียนเพียงนิดเดียวสีก็ติดแล้ว แต่ด้วยเนื้อที่หนาและเข้มจึงควรล้างออกด้วย Eye Remover จะช่วยให้เช็ดออกง่ายสะอาดหมดจด

อายไลเนอร์ แบบดินสอ

เหมาะสำหรับสาวมือใหม่หัดเขียน เพราะเขียนง่ายและแก้ไขง่ายด้วย แต่เส้นจะไม่คมชัดเท่าไร และค่อนข้างเลอะง่าย เมื่อเวลาเหงื่อออก แถมต้องเหนื่อยออกแรงเหลาให้ปลายหัวแหลมอีกต่างหาก